วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์

สำหรับวันนี้ทาง Pingthewildman.blogspot.com ก็มีคำศัพท์น่ารู้ เกี่ยวกับ สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ (mathematical symbols) มาฝากกันครับ โดยเครื่องหมายต่อไปนี้เป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้ในทุกๆที่เลยทีเดียว มาดูสัญลักษณ์เหล่านี้และวิธีการใช้งานกันเลยดีกว่า
addition (การบวก)
เราจะใช้คำว่า plusadd หรือ the sum of ในโจทย์นะครับ เช่น

5 + 2 = five plus two
             add five and two
             the sum of five and two 

 subtraction (การลบ)

สำหรับโจทย์ นิยมใช้ minus แต่ก็สามารถใช้ subtract by และ take away ได้ เช่น
10 – 8 = ten minus eight
               subtract ten by eight
               take eight away from ten

division (การหาร)
มักจะใช้เป็น divided by กับ over

8 / 2 = eight divided by two
             eight over two

multiplication (การคูณ)
วิธีใช้ง่ายมากครับ ที่นิยมก็คือ times แต่ก็สามารถใช้ the product of และ multiplied byได้เช่นกัน

3 x 6 = three times six
             the product of three and six
             three multiplied by six
เครื่องหมายเท่ากับ
(is) equal to หรือ equals เช่น
9 + 5 = 14
nine plus five equals fourteen
เครื่องหมายมากกว่า
(is) greater than เช่น
5 > 2
five is greater than two
เครื่องหมายน้อยกว่า
(is) less than เช่น
6 < 9
six is less than nine
นอกจากเครื่องหมายเหล่านี้ยังมีพวก carat (เครื่องหมายยกกำลัง) หรือ pi กับsquare root แต่ไม่ค่อยเห็นบ่อยเท่าตัวที่นำเสนอมานี้ครับ แล้วติดตามคำศัพท์ภาษาอังกฤษทั่วไปในชีวิตประจำวันได้ทาง Pingthewildman.blogspot.com นะ แล้วจะรู้ว่าการเรียนภาษาอังกฤษนั้นง่ายนิดเดียว

วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ศัพท์สับสน: Marry, Marriage, Wedding

งานแต่งงาน ถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญที่สุดในชีวิตเราก็ว่าได้ เพราะเราคงต้องการสัมผัสกับความรัก และเริ่มต้นชีวิตคู่กับคนพิเศษคนนั้นใช่มั้ยเอ่ย ^^
ทาง Pingthewildman.blogspot.com มีชุดคำศัพท์ที่น่าสนใจมาให้ดูกันครับ โดยคราวนี้ ศัพท์สับสนคือ marry,marriage และ wedding นั่นเอง
ทุกคนคงคุ้นเคยกับคำเหล่านี้ดี เพราะแต่ละคำล้วนมีความหมายที่เกี่ยวข้องกับ การแต่งงาน 
เพราะมีความหมายคล้ายๆกันแบบนี้ จึงมักถูกนำไปใช้ผิดอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะคู่ของ marry กับmarriage ไปดูความหมาย และการนำไปใช้งานของคำศัพท์ 2 ตัวนี้กันเลยครับ

marry – แม-รี่
เป็นคำกริยาที่มักใช้ในรูปของ to marry แปลว่า ขอแต่งงาน 
ใช้ในกรณีที่พูดถึงใครคนหนึ่งได้แต่งงานกับอีกคนหนึ่ง เช่น
John asked Jane to marry him at a luxurious restaurant.
จอห์นขอเจนแต่งงานในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Marry เดี่ยวๆ เพื่อเป็นการขอแต่งงานด้วยนะ เช่น
Sarah, I promise to take care of you for as long as I breathe. Marry me.
ซาราห์ ผมสัญญาว่าจะดูแลคุณตราบจนสิ้นลมหายใจ แต่งงานกับผมนะ

marriage – แม-เรียจ
คือคำนาม ที่แปลว่า การแต่งงาน/ การสมรส หรือชีวิตคู่ นั่นเองครับ มาดูตัวอย่างประโยคกัน
Mrs. Evans divorced with her husband yesterday. I guess their marriage did not work out.
คุณนายอีแวนส์เพิ่งหย่ากับสามีของเธอเมื่อวานนี้เอง ผมว่าชีวิตสมรสของพวกเขาคงไปได้ไม่สวยนัก 
นอกจาก marriage แล้วเรายังสามารถใช้คำหนึ่งแทนได้ด้วย ก็คือคำว่า

wedding - เว็ด-ดิ้ง
คำนี้เป็นคำนามเช่นเดียวกับ marriage ครับ ความหมายคือ การแต่งงานเหมือนกัน แต่มักจะไม่ใช้ในการกล่าวถึงชีวิตคู่ครับ
wedding สามารถนำคำนามมาเติมได้มากมาย เพื่อให้เกิดคำศัพท์ที่มีความหมายใหม่อีกด้วย มาดูตัวอย่างกันเลยครับ
Wedding ring – แหวนแต่งงาน
Wedding ceremony – พิธีแต่งงาน
Wedding gift – ของขวัญวันแต่งงาน
Wedding anniversary – วันครบรอบวันแต่งงาน 
Wedding bouquet – ช่อดอกไม้แต่งงาน

สุดท้ายนี้แอดมินมีคำศัพท์อีก 4 คำที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการแต่งงานมาให้ดูกัน
engage (verb) – แปลว่าการหมั้น ซึ่งเป็นพิธีการสำหรับคู่บ่าวสาวก่อนการแต่งงาน แต่บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องหมั้นก่อนแต่งเสมอไปครับ

bridesmaid – คือเพื่อนเจ้าสาวนั่นเอง อาจมีตั้งแต่ 1-6 คน แต่อาจมีมากกว่า 10 คนก็ได้ ขึ้นอยู่กับขนาดของงานแต่งงานและจำนวนแขก ส่วนใหญ่แล้ว bridesmaid จะต้องเป็นโสดนะครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของตัวเจ้าสาว
groomsmen – ใช่แล้วครับ งานแต่งงานจะขาด เพื่อนเจ้าบ่าวไปได้ไง แน่นอนจำนวนคนและสถานะความโสดก็ขึ้นอยู่กับเจ้าบ่าวครับ แต่การเลือกคนที่มาอยู่ในตำแหน่งนี้ต้องเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงทีเดียว เพราะต้องคอยช่วยเจ้าบ่าวจัดการงานแต่งงานให้ราบรื่น ตั้งแต่การดูแลความเรียบร้อยภายในงาน ไปจนถึงการจัดปาร์ตี้สละโสดเลยทีเดียว
best man – คนนี้คือหนึ่งใน Groomsmen แต่สนิทกับเจ้าบ่าวที่สุด โดยทั่วไปแล้วจะเป็นเพื่อนสนิทหรือน้องชาย และเป็นผู้รับหน้าที่สำคัญในการมอบ Wedding ring ให้กับเจ้าบ่าวในช่วงเวลาสำคัญด้วยครับ
และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงาน แอดมินเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับหลายๆคนที่เคยสับสนเกี่ยวกับการใช้คำศัพท์บางคำในบริบท ติดตามสาระน่ารู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษได้ที่ Pingthewildman.blogspot.com นะครับ 

วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ศัพท์สับสน: Assume, Guess, Know, Think

สำหรับคอลัมน์คำศัพท์สับสนวันนี้ Pingthewildman.blogspot.com นำ 4 คำกริยาที่เกี่ยวข้องกับ “การคิด” มาฝากกันครับ คือ assumeguessknow และ think ถึงแม้จะมีความหมายที่คล้ายๆกันแต่แน่นอนว่าไม่เหมือน และใช้งานต่างกันครับ
1. assume อะ-ซิวม์/อะ-ซูม แปลว่า การคาดเดา เป็นการรับรู้ถึงบางสิ่งโดยไม่มีหลักฐานมายืนยันว่าจริงหรือไม่

assume you want to improve your English speaking skill.
ผมเดาว่าคุณคงต้องการจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น
2. guess เกส แปลว่า การคาดเดา ซึ่งคล้ายกับ assume แต่ guess สามารถใช้ในการคาดเดากรณีที่มีตัวเลือกให้พิจารณาได้ด้วย

guess the correct answer is B.
ผมคิดว่าคำตอบที่ถูกต้องคือข้อ B.
3. know โนว์ แปลว่า การรับรู้ถึงบางสิ่ง ทั้งผ่านการสังเกต สอบถาม หรือรับรู้จากข้อมูลที่มีอยู่
Austin knows that the quota exam is very important, so he started reading books today.
ออสตินรู้ดีว่าการสอบโควตานั้นสำคัญมาก เขาจึงเริ่มทบทวนบทเรียนตั้งแต่วันนี้ 
4. think ธิงค์ แปลว่า การคิด ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ผ่านเข้ามาในสมองเรา ที่เราเห็นภาพหรือนึกถึง ล้วนเป็นความคิดทั้งนั้นครับ
think that English is quite fun.
ฉันคิดว่าภาษาอังกฤษก็สนุกดีเหมือนกันนะ
เป็นข้อแตกต่างเล็กน้อย ถ้าเลือกใช้คำถูกต้องก็จะทำให้บทสนทนาเข้าใจได้ง่ายขึ้น ติดตามชุดคำศัพท์ที่ความหมายคล้าย ใช้งานหลากหลายได้ที่ Pingthewildman.blogspot.com นะครับ

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ศัพท์สับสน: Affect VS Effect

สำหรับวันนี้ทาง Pingthewildman ก็มีคำศัพท์น่ารู้ที่เรามักจะใช้ผิดมาให้ดูกันครับ
หลายๆคนที่ต้องทำการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ หรืออ่านนิยายภาษาอังกฤษ ย่อมต้องคุ้นเคยกับคำศัพท์คู่นี้ดีครับ นั่นก็คิอ affect กับ effect นั่นเอง เรามาดูความหมายและการใช้งานแต่ละคำกันเลย
affect – แอฟ-เฟ็คท์
ส่วนใหญ่จะใช้เป็น Verb ที่มีความหมายว่า “ส่งผลกระทบ” ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มาดูตัวอย่างประโยคกันครับ
The Asean Economic Community will affect many companies in Thailand.
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะส่งผลกระทบต่อหลายๆบริษัทในประเทศไทย
The drought affects the growth of plants.
ภัยแล้งส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืช
ส่วนคำว่า
effect – อี-เฟ้คท์
คำนี้เป็น Noun ที่หมายความว่า “ผลกระทบ” เช่น
Global warming has severe effects on humans.ภาวะโลกร้อนมีผลกระทบที่รุนแรงต่อมนุษย์
นอกจากนี้ยังสามารถใช้คำอื่นๆคู่กับ effect เพื่อให้เกิดความหมายใหม่ได้ด้วยนะ เช่น
side-effect – ผลข้างเคียง (Noun)
Taking steroids can have negative side-effects to the body.การรับยาสเตียรอยด์จะส่งผลข้างเคียงไม่ดีต่อร่างกาย
take effect - เห็นผล (Idiom)
The medicine takes effect within half an hour.
ยาจะออกฤทธิ์ภายในครึ่งชั่วโมง

วิธีสังเกตง่ายๆว่าคำไหนเป็น Noun คำไหนเป็น Verb คือการอ่านออกเสียงนั่นเองครับ
หากเป็น affect จะต้องเน้นหนักไปที่พยางค์หลัง ส่วน
effect จะเน้นเสียงที่พยางค์แรก นะครับ
ซึ่งการออกเสียง Stress พยางค์แรก ส่วนใหญ่คำนั้นจะเป็น Noun แต่ถ้า เน้นไปที่พยางค์หลังจะเป็น Verb ครับ

เป็นยังไงบ้างครับสำหรับคำศัพท์สับสนในวันนี้ คราวนี้เพื่อนๆคงรู้แล้วนะครับว่าควรใช้ Affect และ Effect ในกรณีไหน ทาง Pingthewildman ก็จะมีคำศัพท์ใหม่ๆมาอัพเดทให้ตลอด ต้องคอยติดตามกันนะครับ ^^

วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พูดอีกครั้งได้ไหม (Asking to repeat)

เคยมั้ย? เดินอยู่ดีๆมีนักท่องเที่ยวฝรั่งที่ไหนไม่รู้เข้ามาทักทาย ยิงภาษาอังกฤษมาเป็นชุดๆเลย ไอ้เราก็ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้าง แล้วจะตอบยังไงดี? อย่างแรกตั้งสติก่อนนะครับ ถ้าฟังไม่ทันจริงๆก็ขอให้เค้าพูดซ้ำอีกครั้งซะก็หมดเรื่อง แต่คำว่า Again please? เนี่ยมันเช๊ยเชย ลองเปลี่ยนมาใช้คำใหม่ๆพวกนี้ดู

สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

Excuse me? อิ๊กส์-คิวส์-มี
I’m sorry? ไอม์-ซอรี๋
2 คำนี้ใช้ได้กว้างขวางมาก และคงได้ยินกันบ่อยที่สุดแล้ว ความหมายก็ประมาณว่า “อะไรนะ พูดอีกทีซิ”
What do you mean? ว็อท-ดยู-มีน
ใช้ตอนที่เราได้ยินชัดแล้ว แต่ไม่เข้าใจ ก็ให้คนพูดอธิบายให้เคลียร์นิดนึงว่าที่พูดมาหมายความว่าไง
Could you repeat that? ขุด-ดยู-รีพีท-แ(th)ท
คำนี้ใช้ให้เค้าพูดซ้ำ ซึ่งมักจะใช้กับข้อมูลที่มีรายละเอียดเยอะ ถ้าเป็นบทสนทนาทั่วไปใช้คำอื่นดีกว่านะ

Pardon? - ผาร์-เดิ้น
อันนี้ถ้าไม่ใช่ผู้ดี๊ ผู้ดีจริงๆคงไม่ค่อยมีใครใช้แล้วล่ะครับ เพราะมันเป็นทางการมากกว่าทุกคำข้างบนซะอีก แต่ยังไงก็รู้ไว้เผื่อเจอเนาะ

สำหรับใช้กับเพื่อนๆ หรือคนแปลกหน้าแต่ไม่อบากเป็นทางการมาก
Hmm? / Huh? – หืม/ หา
ไม่มีอะไรมาก กับเพื่อนสนิทแค่  “ห๊ะ หา” ก็คงเข้าใจว่าเราให้มันพูดอีกครั้ง
What? (อะไรนะ)
What was that?
จะพูดสั้นๆ หรือยาวก็ได้ทั้งคู่ 
Speak up! (พูดดังๆหน่อยว้อย ไม่ได้ยิน!)
Come again? (มาอีกรอบซิ)
เฮ้ยยย ไม่ใช่แล้ว ในบริบทนี้มันหมายความว่า “ไหนพูดอีกทีซิ” นะครับ อย่าเข้าใจผิดนะ
โอเคครับ แค่นี้ก็คงพอเอาตัวรอดให้ฝรั่งเค้าพูดซ้ำให้เราฟังได้แล้ว แต่จากนั้นจะตอบยังไงก็ตัวใครตัวมันแล้วนะจ๊ะ ทางที่ดีฝึกการฟังให้คล่อง พยายามฟังรอบเดียวไม่ต้องขอ repeat ดีกว่านะ

วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Flip Your Fingers: นิ้วมือทั้ง 5

สวัสดีชาว DailyEnglish ทุกคนครับ วันนี้แอดมินมีคำศัพท์น่าสนใจมาฝาก เป็นสิ่งทีอยู่ใกล้ตัวเรามากค่ะ เราเห็นมันอยู่ทุกๆวัน นั่นก็คือนิ้วมือ (finger) นั่นเอง เพื่อนๆรู้รึเปล่าว่านิ้วมือทั้ง 5 ของเรามีชื่ออะไรในภาษาอังกฤษ ไปดูกันเลยครับ
1. thumb ธัมบ์ นิ้วโป้ง
นิ้วโป้งจะมีชื่อเรียกแตกต่างจากทุกนิ้วครับ เพราะมีรากศัพท์มาจากคำว่า “tumon” ซึ่งเป็นภาษาProto-Germanic ที่แปลว่าอ้วน หรือหนา นิ้วโป้งมีลักษณะแตกต่างจากนิ้วอื่นอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญมีข้อต่อ (joint) แค่ 2 ข้อเองนะ เวลาเรารู้สึกชอบหรือถูกใจอะไรก็กำหมัดแล้วชูนิ้วโป้งขึ้นมาได้ เรียกว่า thumbs-up ครับ
2. forefinger ฟอร์-ฟิงเกอะ นิ้วชี้
นิ้วชี้มักจะนิยมเรียกว่า index finger หรือ pointer finger เป็นนิ้วที่เราใช้งานได้คล่องแคล่วที่สุด เวลาชี้นิ้วไปที่ใครก็คิดให้ดีก่อนนะคะ เพราะในบางประเทศถือว่าการชี้นิ้วใส่คนอื่นเป็นการเสียมารยาท
3. middle finger มิดดึ้ล-ฟิงเกอะ นิ้วกลาง
นิ้วกลางเป็นนิ้วที่ยาวที่สุด เราสามารถแสดง “ภาษามือที่ไม่สุภาพ” (obscene hand gesture) โดยการชูนิ้วกลางขึ้นมา เชื่อว่าหลายๆคนอาจรู้จักกันดี เราเรียกการชูนิ้วกลางว่า flip the bird หรือ to give the finger
4. ring finger ริง-ฟิงเกอะ นิ้วนาง
ที่เรียกว่า ring finger เพราะเวลาเราแต่งงานฝ่ายหญิงก็จะสวมแหวนแต่งงานที่นิ้วนาง นี่เป็นเพราะความเชื่อสมัยโบราณที่ว่านิ้วนางมีเส้นเลือดที่เชื่อมไปถึงหัวใจ (การแพทย์ปัจจุบันพิสูจน์ได้แล้วว่าไม่เป็นความจริง) การใส่แหวนที่นิ้วนางเป็นการแสดงความซื่อสัตย์ (loyalty) ต่อกันครับ
5. little finger ลิตเดิ้ล-ฟิงเกอะ นิ้วก้อย
เรียกแบบน่ารักๆว่า pinky finger หรือสั้นๆว่า pinky ก็ได้ค่ะ มีคำศัพท์ภาษาอังกฤษเวลาสัญญาด้วยการเกี่ยวนิ้วก้อยกันด้วย ก็คือ pinky promise หรือ pinky swear นั่นเอง
จบไปแล้วสำหรับคำศัพท์นิ้วมือทั้ง 5 ของเรา เห็นมั้ยว่าคำศัพท์ใกล้ตัวเราที่น่าสนใจมีอยู่มากมายเลย แล้วพบกับความรู้ภาษาอังกฤษได้ทุกวันที่ DailyEnglish นะครับ ^^